เปรียบเทียบ RoboForex กับ LMFX ควรซื้อขายที่ RoboForex หรือ LMFX?

เปรียบเทียบ RoboForex และ LMFX

RoboForex คืออะไร? LMFX คืออะไร?

RoboForex คือโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวซีแลนด์ และได้รับใบอนุญาตจาก IFSC และ CySEC มีการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลาย มีโปรโมชันและโบนัสมากมาย และมีการฝากถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย 

LMFX คือโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มาซิโดเนีย และไม่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานใด มีการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภท มีโปรโมชันและโบนัสบางอย่าง และมีการฝากถอนเงินผ่าน e-wallet และบัตรเครดิต

อันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด

อันดับ	นายหน้า	ทบทวน	เปิดบัญชี	โบนัส	แพลตฟอร์ม	เงินฝากขั้นต่ำ	ECN (เงินฝากขั้นต่ำ)
1	Exness		เปิดบัญชี Exness	16$/lot	MT4, MT5, Exness, ...	1$	10$
2	IC Markets		เปิดบัญชี IC Markets	-	MT4, MT5, cTrader	200$	200$
3	XM		เปิดบัญชี XM	30$	MT4, MT5	5$	-
4	XTB		เปิดบัญชี XTB	2000$	MT4, xStation 5	1$	1$
5	FBS		เปิดบัญชี FBS	140$	MT4, MT5, FBS Trader	1$	1000$

การเปรียบเทียบกฎระเบียบของ RoboForex และ LMFX

คือ RoboForex ได้รับการกำกับดูแลจาก IFSC และ CySEC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานการป้องกันผู้ลงทุน ส่วน LMFX ไม่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานใด ซึ่งเป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ลงทุน และอาจไม่ได้รับการคุ้มครองหากเกิดปัญหา

การเปรียบเทียบสินทรัพย์ของ RoboForex และ LMFX

คือ RoboForex มีสินทรัพย์มากกว่า 12,000 รายการ ซึ่งประกอบด้วย หุ้น ดัชนี โลหะ สกุลเงิน คริปโตเคอเรนซี่ และอื่นๆ ส่วน LMFX มีสินทรัพย์ประมาณ 100 รายการ ซึ่งประกอบด้วย สกุลเงิน โลหะ น้ำมัน ดัชนี และหุ้น

การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของ RoboForex และ LMFX

คือ RoboForex มีค่าสเปรดต่ำสุด 0 pips สำหรับบัญชี ECN และมีค่าคอมมิชชัน 20 USD ต่อล็อต สำหรับบัญชีมาตรฐาน มีค่าสเปรดต่ำสุด 1.3 pips และไม่มีค่าคอมมิชชัน ส่วน LMFX มีค่าสเปรดต่ำสุด 0 pips สำหรับบัญชี Zero และมีค่าคอมมิชชัน 8 USD ต่อล็อต สำหรับบัญชี Premium มีค่าสเปรดต่ำสุด 1 pips และไม่มีค่าคอมมิชชัน

การเปรียบเทียบประเภทบัญชี RoboForex และ LMFX

คือ RoboForex มีบัญชี 5 ประเภท ได้แก่ บัญชีมาตรฐาน บัญชี ECN บัญชี Cent บัญชี Affiliate และบัญชี Demo ส่วน LMFX มีบัญชี 4 ประเภท ได้แก่ บัญชี Premium บัญชี Fixed บัญชี Zero และบัญชี Demo

การเปรียบเทียบตัวเลือกการฝากและถอนเงินของ RoboForex และ LMFX

คือ RoboForex มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินหลายช่องทาง ได้แก่ ธนาคารในประเทศไทย บัตรเครดิต บัตรเดบิต e-wallet และคริปโตเคอเรนซี่ ส่วน LMFX มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินจำกัด ได้แก่ บัตรเครดิต บัตรเดบิต e-wallet

การเปรียบเทียบแพลตฟอร์มการซื้อขายของ RoboForex และ LMFX

คือ RoboForex มีแพลตฟอร์มการซื้อขายหลายตัว ได้แก่ MetaTrader 4 MetaTrader 5 cTrader R Trader และ WebTrader ส่วน LMFX มีแพลตฟอร์มการซื้อขายเพียงตัวเดียว คือ MetaTrader 4

การเปรียบเทียบเครื่องมือวิเคราะห์ของ RoboForex และ LMFX

เครื่องมือวิเคราะห์ของ RoboForex และ LMFX มีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากทั้งสองใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader ที่มีเครื่องมือวิเคราะห์มาตรฐาน เช่น อินดิเคเตอร์ เทคนิคอล, เชิงพื้นฐาน, และกราฟิก RoboForex มีบางข้อได้เปรียบ LMFX เช่น มีการให้บริการ VPS ฟรี, Copy Trading, Trader Strategy Builder, และ R Trader LMFX ไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์พิเศษใด ๆ

RoboForex และ LMFX โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ไหนดีกว่ากัน? คุณควรเลือกโบรกเกอร์ forex ใด?

คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่แน่นอน เพราะการเลือกโบรกเกอร์ forex ขึ้นอยู่กับความต้องการ ความชอบ และความเหมาะสมของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ผมจะพยายามเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของ RoboForex และ LMFX ตามข้อมูลที่ผมค้นหาได้จากเว็บไซต์ของพวกเขา และบทวิเคราะห์จากเว็บไซต์อื่น ๆ

RoboForex คือโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวซีแลนด์ และได้รับใบอนุญาตจาก IFSC และ CySEC มีการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลาย มีโปรโมชันและโบนัสมากมาย และมีการฝากถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย

LMFX คือโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มาซิโดเนีย และไม่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานใด มีการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภท มีโปรโมชันและโบนัสบางอย่าง และมีการฝากถอนเงินผ่าน e-wallet และบัตรเครดิต

ข้อดีของ RoboForex คือ:

• ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานการป้องกันผู้ลงทุน
• มีสินทรัพย์มากกว่า 12,000 รายการ ซึ่งประกอบด้วย หุ้น ดัชนี โลหะ สกุลเงิน คริปโตเคอเรนซี่ และอื่นๆ
• มีค่าสเปรดต่ำสุด 0 pips สำหรับบัญชี ECN และมีค่าคอมมิชชัน 20 USD ต่อล็อต สำหรับบัญชีมาตรฐาน มีค่าสเปรดต่ำสุด 1.3 pips และไม่มีค่าคอมมิชชัน
• มีบัญชี 5 ประเภท ได้แก่ บัญชีมาตรฐาน บัญชี ECN บัญชี Cent บัญชี Affiliate และบัญชี Demo
• มีแพลตฟอร์มการซื้อขายหลายตัว ได้แก่ MetaTrader 4 MetaTrader 5 cTrader R Trader และ WebTrader
• มีเครื่องมือวิเคราะห์มากมาย ได้แก่ ปฏิทินเศรษฐกิจ ข่าวตลาด วิเคราะห์ทางเทคนิค วิเคราะห์ทางพื้นฐาน สัญญาณการซื้อขาย และโปรแกรมสร้างกลยุทธ์การซื้อขาย
• มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินหลายช่องทาง ได้แก่ ธนาคารในประเทศไทย บัตรเครดิต บัตรเดบิต e-wallet และคริปโตเคอเรนซี่
• มีโบนัสต้อนรับ 30 USD และโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 115%
• มีเว็บไซต์ภาษาไทย และมีเจ้าหน้าที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ ในภาษาไทย

ข้อเสียของ RoboForex คือ:

• ไม่มีสาขาในประเทศไทย ต้องติดต่อกับสาขาต่างประเทศ
• ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการทางแชทในวัน หยุดเสาร์-อาทิตย์

ข้อดีของ LMFX คือ:

• มีค่าสเปรดต่ำสุด 0 pips สำหรับบัญชี Zero และมีค่าคอมมิชชัน 8 USD ต่อล็อต สำหรับบัญชี Premium มีค่าสเปรดต่ำสุด 1 pips และไม่มีค่าคอมมิชชัน
• มีบัญชี 4 ประเภท ได้แก่ บัญชี Premium บัญชี Fixed บัญชี Zero และบัญชี Demo
• มีแพลตฟอร์มการซื้อขายเพียงตัวเดียว คือ MetaTrader 4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมและใช้งานง่าย
• มีโปรโมชันและโบนัสบางอย่าง ได้แก่ โบนัสเงินฝาก 100% โบนัสเงินฝาก 15% โบนัสเงินฝาก 20% และโบนัสเงินฝาก 30%

เข้าร่วมกลุ่มสัญญาณการซื้อขาย เข้าร่วมเดี๋ยวนี้