เปรียบเทียบ RoboForex และ EagleFX
RoboForex คืออะไร? EagleFX คืออะไร?
RoboForex และ EagleFX เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการการซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, ดัชนี, และสกุลเงินดิจิทัล ทั้งสองโบรกเกอร์นี้มีความแตกต่างกันในเรื่องของการควบคุม, สเปรด, ค่าธรรมเนียม, แพลตฟอร์ม, และเครื่องมือวิเคราะห์
อันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด
อันดับ | นายหน้า | ทบทวน | เปิดบัญชี | โบนัส | แพลตฟอร์ม | เงินฝากขั้นต่ำ | ECN (เงินฝากขั้นต่ำ) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | Exness | เปิดบัญชี Exness | 16$/lot | MT4, MT5, Exness, ... | 1$ | 10$ | |
2 | IC Markets | เปิดบัญชี IC Markets | - | MT4, MT5, cTrader | 200$ | 200$ | |
3 | XM | เปิดบัญชี XM | 30$ | MT4, MT5 | 5$ | - | |
4 | XTB | เปิดบัญชี XTB | 2000$ | MT4, xStation 5 | 1$ | 1$ | |
5 | FBS | เปิดบัญชี FBS | 140$ | MT4, MT5, FBS Trader | 1$ | 1000$ |
การเปรียบเทียบกฎระเบียบของ RoboForex และ EagleFX
RoboForex ได้รับการควบคุมโดย IFSC (เบลีซ) และ The Financial Commission (สหราชอาณาจักร) ในขณะที่ EagleFX ไม่ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานใด ๆ นั่นหมายความว่า RoboForex มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากกว่า EagleFX
การเปรียบเทียบสินทรัพย์ของ RoboForex และ EagleFX
RoboForex มีสินทรัพย์มากกว่า 9000 รายการ ซึ่งประกอบด้วย ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, ดัชนี, สกุลเงินดิจิทัล, ETF, และตัวเลือก ในขณะที่ EagleFX มีสินทรัพย์ประมาณ 180 รายการ ซึ่งประกอบด้วย ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, และสกุลเงินดิจิทัล นั่นหมายความว่า RoboForex มีความหลากหลายของตลาดมากกว่า EagleFX
การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของ RoboForex และ EagleFX
RoboForex มีสเปรดตั้งแต่ 0.0 pips และค่าคอมมิชชั่นตั้งแต่ 0.0045% ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี ในขณะที่ EagleFX มีสเปรดตั้งแต่ 0.1 pips และค่าคอมมิชชั่น $2 ต่อล็อต นั่นหมายความว่า RoboForex มีเงื่อนไขการซื้อขายที่แข่งขันได้มากกว่า EagleFX
การเปรียบเทียบประเภทบัญชี RoboForex และ EagleFX
RoboForex มีประเภทบัญชี 6 ประเภท ได้แก่ Pro-Standard, Pro-Cent, ECN, Prime, R Trader, และ Demo ในขณะที่ EagleFX มีประเภทบัญชีเพียง 1 ประเภท คือ Standard นั่นหมายความว่า RoboForex มีตัวเลือกบัญชีมากกว่า EagleFX
การเปรียบเทียบตัวเลือกการฝากและถอนเงินของ RoboForex และ EagleFX
RoboForex มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินมากกว่า 20 วิธี ได้แก่ Skrill, Credit/debit cards, Neteller, UnionPay, Western Union, Perfect Money, Boleto Bancário, Local bank transfer, AdvCash และ AstroPay ในขณะที่ EagleFX มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินเพียง 3 วิธี ได้แก่ Wire transfer, Credit / debit cards และ Crypto นั่นหมายความว่า RoboForex มีความยืดหยุ่นในการจัดการเงินมากกว่า EagleFX
การเปรียบเทียบแพลตฟอร์มการซื้อขายของ RoboForex และ EagleFX
RoboForex มีแพลตฟอร์มการซื้อขาย 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, และ R StockTrader ในขณะที่ EagleFX มีแพลตฟอร์มการซื้อขายเพียง 1 แพลตฟอร์ม คือ MetaTrader 4 นั่นหมายความว่า RoboForex มีแพลตฟอร์มที่ทันสมัยและหลากหลายมากกว่า EagleFX
การเปรียบเทียบเครื่องมือวิเคราะห์ของ RoboForex และ EagleFX
RoboForex มีเครื่องมือวิเคราะห์มากกว่า 10 เครื่องมือ ได้แก่ ปฏิทินเศรษฐกิจ, ข่าวการซื้อขาย, สัญญาณการซื้อขาย, การวิเคราะห์ทางเทคนิค, การวิเคราะห์ทางพื้นฐาน, การคำนวณค่าธรรมเนียม, การคำนวณความเสี่ยง, การคำนวณความสามารถในการชำระหนี้, การคำนวณค่าเงิน, การคำนวณค่าหุ้น, และการคำนวณค่าเงินตรา ในขณะที่ EagleFX มีเครื่องมือวิเคราะห์เพียง 2 เครื่องมือ ได้แก่ ปฏิทินเศรษฐกิจ และ ข่าวการซื้อขาย นั่นหมายความว่า RoboForex มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีประโยชน์มากกว่า EagleFX
RoboForex และ EagleFX โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ไหนดีกว่ากัน? คุณควรเลือกโบรกเกอร์ forex ใด?
คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่แน่นอน เพราะมันขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม จากการเปรียบเทียบที่ฉันได้ทำไว้ ฉันสามารถสรุปข้อดีและข้อเสียของแต่ละโบรกเกอร์ได้ดังนี้
RoboForex มีข้อดีดังนี้
- ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ
- มีสินทรัพย์หลากหลายมากกว่า 9000 รายการ
- มีเงื่อนไขการซื้อขายที่แข่งขันได้
- มีประเภทบัญชีหลากหลาย
- มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินมากกว่า 20 วิธี
- มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ทันสมัยและหลากหลาย
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีประโยชน์มากกว่า 10 เครื่องมือ
RoboForex มีข้อเสียดังนี้
- มีค่าคอมมิชชั่นสูงสำหรับบางประเภทบัญชี
- มีข้อจำกัดในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
- มีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมและสเปรดบ่อยครั้ง
EagleFX มีข้อดีดังนี้
- ไม่ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานใด ๆ ซึ่งอาจเพิ่มความอิสระในการซื้อขาย
- มีสเปรดต่ำสำหรับบางสินทรัพย์
- มีค่าคอมมิชชั่นคงที่สำหรับทุกการซื้อขาย
- มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้
- มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นที่นิยมและง่ายต่อการใช้งาน
EagleFX มีข้อเสียดังนี้
- ไม่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย
- มีสินทรัพย์น้อยกว่า 180 รายการ
- มีประเภทบัญชีเพียง 1 ประเภท
- มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินเพียง 3 วิธี
- มีเครื่องมือวิเคราะห์เพียง 2 เครื่องมือ
ดังนั้น คุณควรเลือกโบรกเกอร์ forex ที่ตรงกับวัตถุประสงค์และงบประมาณของคุณ ถ้าคุณต้องการความหลากหลายและความน่าเชื่อถือ คุณอาจเลือก RoboForex แต่ถ้าคุณต้องการความอิสระและความง่าย คุณอาจเลือก EagleFX