เปรียบเทียบ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx คืออะไร? IFC Markets คืออะไร?
OctaFx และ IFC Markets เป็นโบรกเกอร์ forex และ CFD ที่ให้บริการการซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดย OctaFx เป็นโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ และ IFC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่บริติชเวอร์จินไอส์แลนด์
อันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด
อันดับ | นายหน้า | ทบทวน | เปิดบัญชี | โบนัส | แพลตฟอร์ม | เงินฝากขั้นต่ำ | ECN (เงินฝากขั้นต่ำ) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | Exness | ![]() | เปิดบัญชี Exness | 16$/lot | MT4, MT5, Exness, ... | 1$ | 10$ |
2 | IC Markets | ![]() | เปิดบัญชี IC Markets | - | MT4, MT5, cTrader | 200$ | 200$ |
3 | XM | ![]() | เปิดบัญชี XM | 30$ | MT4, MT5 | 5$ | - |
4 | XTB | ![]() | เปิดบัญชี XTB | 2000$ | MT4, xStation 5 | 1$ | 1$ |
5 | FBS | ![]() | เปิดบัญชี FBS | 140$ | MT4, MT5, FBS Trader | 1$ | 1000$ |
การเปรียบเทียบกฎระเบียบของ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx ได้รับการกำกับดูแลโดย Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร และ IFC Markets ได้รับการกำกับดูแลโดย British Virgin Islands Financial Services Commission (BVI FSC) และ Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานสูง
การเปรียบเทียบสินทรัพย์ของ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx มีสินทรัพย์ทั้งหมด 74 ตราสาร ซึ่งประกอบด้วย 28 คู่สกุลเงิน 4 โลหะมีค่า 10 ดัชนี และ 32 สกุลเงินดิจิตอล ส่วน IFC Markets มีสินทรัพย์ทั้งหมด 600+ ตราสาร ซึ่งประกอบด้วย 50+ คู่สกุลเงิน 4 โลหะมีค่า 6 พลังงาน 150+ หุ้น 100+ ดัชนี 15+ สินค้าโภคภัณฑ์ และ 8 สกุลเงินดิจิตอล
การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx มีค่าธรรมเนียมและสเปรดที่ต่ำ โดยมีสเปรดลอยตัวเริ่มต้นที่ 0.4 pip สำหรับบัญชีไมโคร MT4 0.6 pip สำหรับบัญชี MT5 Pro และ 0.4 pip พร้อมค่าคอมมิชชัน $3/1 ล็อต สำหรับบัญชี cTrader ECN
IFC Markets มีค่าธรรมเนียมและสเปรดที่ค่อนข้างสูง โดยมีสเปรดลอยตัวเริ่มต้นที่ 1.8 pip สำหรับบัญชี NetTradeX Standard 1.5 pip สำหรับบัญชี MT4 Standard และ 0.4 pip พร้อมค่าคอมมิชชัน $6/1 ล็อต สำหรับบัญชี NetTradeX Beginner และ MT4 Micro
การเปรียบเทียบประเภทบัญชี OctaFx และ IFC Markets
OctaFx มีประเภทบัญชีทั้งหมด 3 ประเภท คือ บัญชีไมโคร MT4 บัญชี MT5 Pro และบัญชี cTrader ECN ส่วน IFC Markets มีประเภทบัญชีทั้งหมด 6 ประเภท คือ บัญชี NetTradeX Standard บัญชี NetTradeX Beginner บัญชี MT4 Standard บัญชี MT4 Micro บัญชี MT4 Floating และบัญชี MT4 Fixed
การเปรียบเทียบตัวเลือกการฝากและถอนเงินของ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร วอลเล็ตอิเล็กทรอนิกส์ และสกุลเงินดิจิตอล
IFC Markets มีตัวเลือกการฝากและถอนเงินที่จำกัด ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และวอลเล็ตอิเล็กทรอนิกส์
การเปรียบเทียบแพลตฟอร์มการซื้อขายของ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมสูง คือ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader ซึ่งมีความยืดหยุ่นและมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีประโยชน์ ส่วน IFC Markets ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง คือ NetTradeX ซึ่งมีความสามารถในการสร้างสินทรัพย์สังเคราะห์ (PCI) นอกเหนือจาก MetaTrader 4 และ MetaTrader 5
การเปรียบเทียบเครื่องมือวิเคราะห์ของ OctaFx และ IFC Markets
OctaFx มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีประโยชน์สำหรับการเทรด forex และ CFD ซึ่งรวมถึงข่าวตลาด ปฏิทินเศรษฐกิจ คำนวณค่า pip และสเปรด สัญญาณการเทรด และการวิเคราะห์เชิงเทคนิค
IFC Markets มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงการสร้างสินทรัพย์สังเคราะห์ (PCI) ซึ่งเป็นการผสมผสานสินทรัพย์ต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างตราสารใหม่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เช่น คำนวณค่า pip และสเปรด คำนวณค่าเลเวอเรจ และคำนวณค่ามาร์จิ้น
OctaFx และ IFC Markets โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ไหนดีกว่ากัน? คุณควรเลือกโบรกเกอร์ forex ใด?
คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่แน่นอน คุณควรเลือกโบรกเกอร์ forex ที่ตรงกับความต้องการ ความสนใจ และระดับประสบการณ์ของคุณ โดยทั่วไปแล้ว OctaFx และ IFC Markets มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
- OctaFx มีข้อดีในเรื่องของค่าธรรมเนียมและสเปรดที่ต่ำ การให้บริการลูกค้าที่ดี และการรองรับแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมสูง แต่มีข้อเสียในเรื่องของจำนวนสินทรัพย์ที่จำกัด การขาดการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือสูง และการขาดเครื่องมือวิเคราะห์ที่เป็นเอกลักษณ์
- IFC Markets มีข้อดีในเรื่องของจำนวนสินทรัพย์ที่หลากหลาย การให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นเอกลักษณ์ และการมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ แต่มีข้อเสียในเรื่องของค่าธรรมเนียมและสเปรดที่ค่อนข้างสูง การให้บริการลูกค้าที่ไม่ค่อยดี และการขาดการรองรับแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมสูง